หมอปลา คัมแบ็ก เคลียร์ใจ ‘หลวงพี่น้ำฝน’ ผนึกกำลังป้องศาสนา

หมอปลา คัมแบ็ก เคลียร์ใจ ‘หลวงพี่น้ำฝน’ ผนึกกำลังป้องศาสนา

หมอปลา ล่าสุด วันนี้ คัมแบ็ก เข้าเคลียร์ใจ “หลวงพี่น้ำฝน” ปมดรามา เดินหน้าลุยปกป้องศาสนา หลังก่อนหน้านี้ฝั่งหลวงพี่เคยออกมาตำหนิมือปราบสัมภเวสี กรณีตั้งตนเป็นศาลเตี้ยบุกจับพระ วันที่ 26 พ.ค.65 เฟซบุ๊กแฟนเพจ “หมอปลาช่วยด้วย” ของ หมอปลา มือปราบสัมภเวสี ได้เผยแพร่ภาพขณะที่เจ้าตัวพร้อมด้วย “กัน จอมพลัง” เข้าพบ พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือ “หลวงพี่น้ำฝน” เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม

โดยได้มีการบอกเล่าถึงสาเหตุที่มาเข้าพบหลวงพี่ในครั้งนี้ว่า 

“หน้าที่พุทธบริษัท 4 ต้องปกป้องศาสนาต่อไป!! มือปราบอลัชชีเข้าตามตอกออกตามประตู!! น้อมรับคำสอนของหลวงพี่น้ำฝนสาธุ”

ก่อนหน้านี้ “หมอปลา” และทีมงานรวมถึงกองทัพนักข่าว ถูกกระแสสังคมวิจารณ์อย่างหนัก หลังบุกเข้าไปตรวจค้นภายในวัดของ “หลวงปู่แสง” เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา จนมือปราบสัมภเวสีคนดังต้องออกมาขอโทษ ซึ่งเวลานั้น  หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ก็ได้พูดถึง “หมอปลา” ว่า ทำไม่ถูกต้อง กรณีรับเรื่องร้องเรียนแล้วเข้าไปแฉพระ ทำตัวเปรียบเสมือนศาลเตี้ย

อย่างไรก็ตามกับความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้ บรรดาคนสนิททั้งในและนอกวงการต่างพากันเข้ามาคอมเมนต์ให้กำลังใจไม่ขาด อาทิ “กัน จอมพลัง” ที่โพสต์ถึงหมอปลาว่า “หลังจากนี้หลวงพี่น้ำฝนจะเข้าช่วยเหลือดูแลการทำงานต่างๆ ของพี่หมอปลาให้มีความถูกต้องและสนับสนุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเราเน้นการทำงานไม่ให้เกิดผลเสียกับพระพุทธศาสนาครับ ซึ่งหลวงพี่น้ำฝนมีหน้าที่โดยตรง เป็นอะไรที่ดีมากๆ ครับ ยิ่งรวมกันยิ่งแข็งแกร่ง ผมภูมิใจที่เป็นคนกลางให้พี่ 2 คนรักกัน ยิ่งรักกันครอบครัวเรายิ่งแข็งแกร่งครับ”

เช่นเดียวกับ “ทนายตั้ม ษิทรา” เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ  ที่เข้ามาระบุข้อความสั้น ๆ ว่า “เป็นกำลังใจให้นะครับ”

สำหรับจุดเริ่มต้นที่นำมาสู่การจับกุมพระบิดาเจ้าของสำนักประหลาด ซึ่งกำลังเป็นที่วิจารณ์อย่างหนัก #พระบิดา พุ่งขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ เกิดจาก นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ “หมอปลา” ได้รับการร้องเรียนจากลูกสาวที่เล่าว่า แม่ของเธอถูกหลานสะใภ้ชวนไปปฏิบัติธรรมที่อาศรมแห่งหนึ่ง พื้นที่ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ เมื่อปีที่ผ่านมา

โดยตั้งแต่เข้าไปปฏิบัติธรรมปรากฏว่า แม่มีพฤติกรรมแปลกประหลาดคล้ายถูกล้างสมอง จากนั้นหายไปตัวไปก่อินทราบต่อมาว่า ถูกห้ามไม่ให้กลับบ้าน จึงอยากให้มาช่วยเหลือนำตัวกลับออกมา

เพจดัง จับโป๊ะ ‘บังแจ็ค’ อ้างอยู่แคลิฟอร์เนีย เชื่อตัวอยู่อิลลินอยส์

เพจดัง จับโป๊ะ บังแจ็ค หลังอ้างว่าอยู่แคลิฟอร์เนีย ตรวจสอบป้ายทะเบียน สีหัวดับเพลิง พบว่าเป็นของรัฐอิลลินอยส์ จากกรณีที่ บังแจ็ค ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับทางไทยรัฐทีวี ถึงประเด็นเรื่องมือถือของแตงโม ซึ่งก่อนหน้านี้ตัวของบังแจ็คได้ระบุว่าขณะนี้ตนอยู่ แคลิฟอร์เนีย จากนั้นจะไปชิคาโก้ และไปนิวยอร์ก

อย่างไรก็ดีเพจ CSI LA ได้ออกมาเผยข้อมูลแย้งว่า บังแจ็ค ไม่ได้อยู่แคลิฟอร์เนีย อย่างที่กล่าวอ้าง แต่อยู่เมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ ต่างหาก โดยมีการหยิบยกป้ายทะเบียนที่ไม่ตรงกับของรัฐแคลิฟอร์เนีย รวมถึงสีของหัวดับเพลิงที่ของคนละสีกับของรัฐแคลิฟอร์เนีย

นอกจากนี้ทางเพจยังได้ระบุอีกด้วยว่าหาก บังแจ็คอยู่แคลิฟอร์เนียจริง การสัมภาษณ์ในเวลาตอนนั้นควรจะเป็นช่วงมืด แต่จากภาพจะเห็นได้ว่าเป็นช่วงเช้า

ซึ่งทาง CSI LA กล่าวอีกว่า “บังแจ็คไม่ได้ใช้ชื่อจริงทั้งเวลาอยู่ที่นี่และที่เมืองไทย เพราะทางเพจได้ตรวจใบตรวจคนเข้าเมืองของไทยและ บัตร ID ของบังแจ็คที่รัฐนิวยอร์กแล้ว สรุปเป็นที่อยู่ปลอมและชื่อก็ปลอม โดยการสวมชื่อนักกีฬาชาวปากีสถาน ตอนนี้ทางเพจได้เริ่มประสานงานกับตำรวจแล้ว ใครเจอหรือมีข้อมูลบังอีกส่งมาหลังไมค์ได้เลย”

ลูกสาวของหนึ่งในลูกศิษย์พนะบิดา ยังเล่าด้วยว่า อาศรม หรือ สำนักแห่งนี้ เจ้าสำนักชื่อ นายนที หรือที่สาวกเรียกว่า พระบิดา อ้างเป็นพระบิดาของทุกศาสนา เป็นผู้สร้างโลก สอนลูกศิษย์ในอาศรมกว่า 30 ชีวิต ปฏิบัติกิจแปลกๆ กระทั่งกินก้นบุหรี่ของพระบิดาก็เคยมีการสั่งให้ลูกศิษย์ทำมาแล้ว เพราะเชื่อว่าเป็นพระโอสถ สามารถรักษาโรคต่างๆได้ รวมถึงโรคโควิด-19

นอกจากนี้ลูกศิษย์ยังนำดินโคลน อุจจาระและปัสสาวะของพระบิดาที่ได้ถ่ายทิ้งไว้มาพอกตัวอ้างว่าสามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้เช่นกัน โดยไม่ต้องไปหาหมอ

ภายหลังทราบข่าว หมอปลา พร้อมทีมงานและสื่อมวลชนก็ได้รุดไปตรวจสอบตามที่ข่าวนำเสนอไปวานนี้ ซึ่งจากการสอบถาม นายนที ชายผู้เป็นเจ้าของสำนักประหลาด ปฏิเสธบอกไม่ได้สอน แต่ลูกศิษย์เชื่อกันเอง ตัวเองไม่ได้บังคับให้กินอึหรือกินฉี่ ส่วนประเด็นพบศพกว่าสิบราย นายมานะ อายุ 45 ปี หนึ่งในผู้ปฏิบัติธรรม เผยว่า ในสำนักแห่งนี้มีเพียง 5 ศพเท่านั้นที่เห็น แต่ยังมีอีก 6 ศพ ที่ถูกเก็บบรรจุไว้ตามจุดต่างๆ ทั้งในกระท่อมและมีการฝังลอย รวมทั้งสิ้นทั้งหมด 11 ศพ ทุกศพที่นำมาตั้งไว้ที่แห่งนี้มีญาติและญาติได้ยินยอมพร้อมกับมีใบแจ้งตาย ถูกต้องตามกฎหมายทุกศพ โดยประเด็นศพผู้เสียชีวิต ตำรวจเตรียมอายัดศพทั้งหมดต่อไปเพื่อส่งไปทำการตรวจชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่ถูกต้อง

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป