เจ้าสาว จากประเทศ ตูนิเซีย รายหนึ่ง ได้ถูกยกเลิกงานแต่งงานแบบกลางคัน โดยมีเหตุผลมาจากการที่แม่ของเจ้าบ่าวนั้น ไม่ปลื้มในรูปลักษณ์ของตัวเจ้าสาว (1 ส.ค. 2565) ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่น่าเศร้าก็ว่าได้กับการที่ เจ้าสาว จากประเทศ ตูนิเซีย รายหนึ่ง ได้ถูกบังคับให้ยกเลิกงานแต่งงานแบบฟ้าแลบกลางพิธี เนื่องจากแม่ของทางฝ่ายชายไม่ปลื้มในรูปลักษณ์ของเธอ โดยเหตุการณ์นี้ก็แสดงให้เห็นว่าในบางประเทศ และวัฒนธรรมนั้น พ่อ – แม่ ของคู่บ่าวสาวถือว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการแต่งงานก็ว่าได้
เหตุการณ์ดังกล่าวนั้น ก็เป็นเรื่องราวของ ลาเมีย อัล-ลาบาวี (Lamia al-Labawi) “อดีต” เจ้าสาวจากสาธารณรัฐตูนิเซีย
ที่ต้องทำการยกเลิกงานแต่งงานที่ได้ดำเนินไปกับเจ้าบ่าวที่คบหาดูใจกันมาเป็นระยะเวลา 4 ปี ในส่วนของเหตุผลที่ต้องยกเลิกแบบกลางคัน ก็มาจากความไม่ชอบใจของแม่เจ้าบ่าว ที่มองว่าเธอนั้น “เตี้ย และขี้เหร่เกินไป”
การโผล่ออกมาของแม่เจ้าบ่าวก็มาจากการที่ทั้งตัวลาเมีย และแม่เจ้าบ่าวนั้น ไม่เคยเจอตัวกันแบบจริงจังมาก่อน และได้เห็นแ่รูปถ่ายกันเท่านั้น ทำให้เมื่อเจอตัวกันแล้วนั้น แม่เจ้าบ่าวแสดงความไม่พอใจ และประกาศยกเลิกการแต่งงานโดยทันที ซึ่งที่น่าประหลาดใจอีกอย่างก็คือ การเห็นด้วย และยอมรับแต่โดยดีของเจ้าบ่าว
การยกเลิกการแต่งงานในครั้งนี้ของลาเมีย ไม่ได้ส่งผลแค่ทางจิตใจของเธอเท่านั้น แต่ก็ยังส่งผลต่อด้านการเงินของเธออีกด้วย เนื่องจากเธอเป็นเด็กกำพร้า ทำให้เธอต้องดำเนินการใช้จ่ายเงินเพื่อจัดงานแต่งดังกล่าวด้วยตัวเอง ซึ่งตามปกติของงานแต่งงานก็ถือเป็นเงินจำนวนมากเลยทีเดียว ลาเมียได้ทำการเปิดเผยถึงสภาวะของเธอหลังเหตุการณ์ดังกล่าวไว้ว่า เธอไม่กล้าออกไปไหน หรือพบเจอใครเลย ทั้งนี้แล้วนั้น หลังจากที่เหตุการณ์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปก็มีการแสดงความเห็นในเชิงปลอบใจเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งกับกล่าวว่าดีแล้วที่งานแต่งได้ถูกยกเลิกไป เธอได้หลุดพ้นจากความเป็นไปได้ที่อาจจะไม่ดีเท่าไหร่ และตัวเธอนั้นก็คู่ควรกับชายที่ไม่เห็นข้างเธอเลยซักนิดเดียว
คนขับโวยหลังรถไฟฟ้าจีน แจ้งเตือน คนขับหลับใน แต่จริงๆแล้วไม่ได้หลับใน แค่ตาตี่เฉยๆ ด้านบริษัทให้คำมั่นรีบแก้ปัญหา เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม เว็บไซต์ Shine ได้แบ่งปันเรื่องราวสุดงง หลังจากที่รถไฟฟ้ายี่ห้อ Xpeng เตือนว่าคนขับกำลังง่วงนอน แต่จริงๆแล้วคนขับไม่ได้ง่วง แต่คนขับตาตี่ต่างหาก โดยชายคนนี้ได้เขียนลงโพสต์ของเขาพร้อมแท็กประธานบริษัทว่า “ผมแค่ตาตี่เฉยๆ ผมไม่ได้หลับใน คนตาตี่ไม่มีสิทธิ์ใช้ระบบขับอัตโนมัติหรือไง?”
อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่กรณีเดียวที่มีเรื่องแบบนี้ขึ้น และมิหนำซ้ำไม่เกิดกับยี่ห้อนี้อย่างเดียว เพราะบล็อกเกอร์จีนได้แชร์ข้อความข้างต้น ว่าครั้งนึงเขาเคยปวดตา แล้วทางรถแจ้งเตือนว่าเขากำลังจะหลับ และทำให้เขาเข้าถึงเทคโนโลยีบางอย่างของรถยนต์ไม่ได้
ด้าน CEO ของบริษัท Xpeng ก็ไม่ได้นิ่งเฉย และออกมาแจ้งว่าขณะนี้เขาได้แจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาแล้ว
ปัจจุบันรถในประเทศจีนหลายคันมีระบบ เฝ้าสังเกตคนขับ ซึ่งนอกจากระบบนี้จะใช้เพื่อจำเข้าของรถแล้ว แต่ยังใช้การตรวจสอบความพร้อมและความระแวดระวังของคนขับด้วย โดยในปีที่ผ่านมามีรถยนต์ในจีนกว่า 543,300 คันถูกติดตั้งด้วยระบบดังกล่าว ซึ่งถือมากกว่าปีก่อนถึงร้อยละ 228.87
ไขข้อข้องใจ จรวดลองมาร์ช 5บี คือ ? หลังมีข่าวชิ้นส่วนตกลงสู่โลก
ตอบคำถาม จรวดลองมาร์ช 5บี คือ หลังจากที่มีข่าวว่าชิ้นส่วนจะตกลงสู่พื้นโลก 31 ก.ค. นี้ และมีความเป็นไปได้ว่าอาจกระทบไทย จรวดลองมาร์ช 5 บี คือ – จากกรณีกระแสข่าว สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กแจ้งเตือนว่า ชิ้นส่วนจรวดลองมาร์ช 5บี ตกสู่พื้นโลกในวันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม 2565 และมีโอกาสเล็กน้อยที่อาจจะส่งผลกระทบกับประเทศไทย
อาจจะทำให้หลายคนสงสัยว่า จรวดลองมาร์ช 5 บี เป็นของใคร และมีหน้าที่อะไร ดังนั้นทางทีมข่าว TheThaiger จึงได้รวบรวมข้อมูลคร่าวๆเกี่ยวกับ จรวดลองมาร์ช 5 บี
อ้างอิงจากสำนักข่าว CNN จรวดลองมาร์ช 5 บี เป็นจรวดของประเทศจีน หนัก 23 ตัน และได้เดินทางออกนอกโลกในวันที่ 24 กรกฎาคม เวลา 14.22 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยจรวดลองมาร์ช 5 บี นำชิ้นส่วนห้องทดลองเวินเทียน เพื่อไปประกอบเข้ากับสถานีอวกาศเทียนก็อง ก่อนที่ภารกิจจะเสร็จสิ้น
เมื่อภารกิจเสร็จสิ้น จรวดลองมาร์ช 5 บี จะตกลงสู่ชั้นบรรยากาศโลก โดยไม่ได้มีการควบคุม และไม่มีใครทราบว่าชิ้นส่วนจะตกลง ณ จุดใดของโลก ซึ่งถือเป็นครั้งที่สามที่ทางการจีนถูกกล่าวหาว่า ไม่ควบคุมชิ้นส่วนจรวด
ทั้งนี้นักวิทยาศาสตร์ระบุว่ามีความเป็นไปได้ที่ต่ำมากที่มนุษย์จะได้รับผลกระทบชิ้นส่วนอวกาศ แต่ชิ้นส่วนใหญ่ขึ้นอาจจะสร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ไม่มีคนอยู่อาศัย ซึ่งนักวิทยาศาสตร์คนเดิมกล่าวว่าเทคโนโลยีและความก้าวหน้านั้นมีความเสี่ยง แต่ทางเจ้าหน้าที่ควรจะควบคุมจุดตก ไม่ใช่ปล่อยและไม่รู้ว่าจะตกลงที่ใด
เกิดเหตุสยองระหว่างคอนเสิร์ตวง มิลเลอร์ หลัง จอทับใส่แดนเซอร์ เจ็บสองราย ด้านทางการฮ่องกงสั่งระงับคอนเสิร์ตชั่วคราว เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม สำนักข่าว BBC รายงานว่าเกิดเหตุ จอทับใส่แดนเซอร์ ในระหว่างคอนเสิร์ตของกลุ่มบอยแบนด์ “มิลเลอร์” กลุ่มบอยแบนด์จากในฮ่องกง ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและ สร้างความตกตะลึงให้กับผู้เข้าร่วมคอนเสิร์ตเป็นอย่างมาก
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป