‘ประยุทธ์’ เตือน ปชช. อย่าเพิ่งตื่นตระหนก ‘เดลตาครอน’ เชื่อมั่นสาธารณสุข

‘ประยุทธ์’ เตือน ปชช. อย่าเพิ่งตื่นตระหนก ‘เดลตาครอน’ เชื่อมั่นสาธารณสุข

ประยุทธ์ เตือนประชาชน อย่าเพิ่งตื่นตระหนก ‘เดลตาครอน’ ขอให้เชื่อมั่นระบบสาธารณสุขไทย ย้ำขณะนี้ข้อมูลยังไม่แน่นอน นาย ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยถึงกรณีความห่วงกังวลเกี่ยวกับการพบเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ ในสาธารณรัฐไซปรัส โดยมีการตั้งชื่อว่า “เดลตาครอน (Deltacron)” ซึ่งเป็นการผสมผสานพันธุกรรมระหว่างสายพันธุ์เดลต้ากับสายพันธุ์โอมิครอน และพบผู้ติดเชื้อแล้วจำนวน 25 ราย นั้น

กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ชี้แจงว่า 

ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลรายงานที่เป็นทางการออกมา อย่างไรก็ดี ทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้มีการติดตามข้อมูลจากทั่วโลกอยู่ตลอดเวลา ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนในเร็วๆ นี้ ขณะเดียวกัน ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้นำรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมจำนวน 25 ตัวอย่างจากฐานข้อมูลโควิดโลก “GISAID” ซึ่งทางไซปรัสได้อัปโหลดไว้ มาวิเคราะห์และพบว่ารหัสพันธุกรรมทั้ง 25 ตัวอย่างบ่งชี้ว่าเป็นสายพันธุ์เดลตา ซึ่งอาจมีการปนเปื้อนสารพันธุกรรมของโอมิครอนเข้ามาระหว่างการถอดรหัสพันธุกรรม ทั้งนี้ ขอย้ำว่า ข้อมูลดังกล่าวยังคงไม่ชัดเจน จึงอาจต้องใช้เวลาเก็บรวบรวมข้อมูลสักระยะ

นอกจากนี้ จากความเห็นของผู้เชี่ยวชาญการถอดรหัสพันธุกรรมไวรัสระดับโลก ชี้ว่า กรณีการพบเชื้อสายพันธุ์ลูกผสมดังกล่าว มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเกิดจากการปนเปื้อนระหว่างสายพันธุ์เดลต้ากับสายพันธุ์โอมิครอนภายในห้องปฏิบัติการ เนื่องจากตัวอย่างทั้งหมดไม่ได้มาจากคลัสเตอร์เดียวกัน

นายธนกรฯ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีรายงานที่แน่ชัดเกี่ยวกับกรณีการพบเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ “เดลตาครอน” จึงขอให้ประชาชนอย่าเพิ่งตระหนกตกใจเกินไป พร้อมขอให้มั่นใจว่า หากเกิดสายพันธุ์ลูกผสมขึ้นจริง หน่วยงานทางการแพทย์ของไทยมีบุคลากร ความรู้ ความสามารถจะสามารถตรวจพบได้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ไหน ขอให้ประชาชนยังคงเฝ้าระวังและป้องกันตนเองตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดเช่นเดิม

ประยุทธ์ แต่ง คำขวัญวันครู ปี 65 ซึ่งตรงกับวันที่ 16 มกราคม นี้ โดยคำขวัญวันครูปีนี้ได้แก่ ‘พัฒนาครู พัฒนาเด็ก เรียนรู้สู่อนาคต’ เว็บไซต์คุรุสภา ได้เผยแพร่ คำขวัญวันครู ครั้งที่ 66 ประจำปี พ.ศ. 2565 ซึ่งตรงในปีนี้ตรงกับวันที่ วันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม 2565

‘ประยุทธ์’ ปลื้มหลังไทยคว้าอันดับ 11 ประเทศที่น่าใช้ชีวิตหลังเกษียณ

ประยุทธ์ ปลื้ม ไทยคว้าอันดับ 11 ประเทศที่น่าใช้ชีวิตหลังเกษียณ จากการอันดับของนิตยสารต่างชาติ ขอบคุณคนไทยที่มีส่วนสำคัญกับอันดับนี้ นาย ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับที่ 11 ของโลก และนับเป็นอันดับที่ 1 ของเอเชีย จากผลการจัดอันดับ ประเทศที่ดีที่สุดในโลกที่จะใช้ชีวิตหลังเกษียณ ปี 2565 ซึ่งจัดโดย นิตยสารอินเทอร์เนชันแนล ลิฟวิง (International Living) ซึ่งประกาศผลเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2565 นี้

จากผลการจัดอันดับนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรับทราบ และยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เป็นอีกครั้งที่ประเทศไทยมีชื่อเสียง เป็นที่นิยมระดับโลก นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เชื่อมั่นว่าประเทศไทยน่าอยู่ไม่แพ้ที่ใดในโลก ผู้ที่ได้เคยมาสัมผัส ไม่ว่าจะมาเที่ยว หรือมาทำงานต่างหลงรักความเป็นไทย ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น และขอขอบคุณคนไทยทุกคนที่มีส่วนสำคัญ มีมิตรไมตรีต่อกัน และต่อชาวต่างชาติ จนทำให้ประเทศได้รับการจัดอันดับที่ดีอย่างต่อเนื่อง

โดย ดัชนี Global Retirement เป็นการสํารวจแบบครอบคลุม และในเชิงลึก ใช้การรวบรวมความคิดเห็นและประสบการณ์จริงจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ เพื่อจัดอันดับจุดหมายปลายทางในการใช้ชีวิตภายหลังการเกษียณอายุที่ดีที่สุดในโลก ปัจจัยที่นำมาพิจารณาในการจัดอันดับแบ่งเป็น 4 หมวด ได้แก่ ทั่วไป การเงิน วิถีชีวิต และ หลักธรรมาภิบาล โดยปัจจัยย่อยที่นำมาพิจารณา อาทิ สภาพอากาศ ระบบดูแลสุขภาพ สาธารณสุข ค่าครองชีพ ที่อยู่อาศัย การขอวีซ่า ระดับการพัฒนา และสิทธิพิเศษต่างๆ

นาย ธนกร กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดี แสดงว่าประเทศไทยของเรามีความสวยงามน่าดึงดูดใจจนเป็นที่นิยม ได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 1 ในเอเชีย เชื่อว่าเป็นผลจากแนวทางการบริหารประเทศของรัฐบาล และวิสัยทัศน์ของนายกรัฐมนตรี ที่จับทางความนิยมในกระแสโลกและได้อำนวยความสะดวกให้กับการเดินทางมาท่องเที่ยว และทำงาน รวมถึงวางแผนเกษียณที่ประเทศไทย ซึ่งรัฐบาลสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน โดยเฉพาะดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงพำนักระยะยาว (long-term stay) ในประเทศไทย

ทั้งนี้เชื่อว่า จะเป็นโอกาสสำคัญให้กับการฟื้นฟูเศรษฐกิจในประเทศ จึงอยากเชิญชวนให้คนไทยทุกคนร่วมเป็นเจ้าบ้านที่ดีเพื่อต่อยอดการพัฒนา เอกลักษณ์ วัฒนธรรม และเป็นโอกาสสนับสนุน Soft Power ไทยในเวทีโลก

ก่อนหน้านี้ นิตยสารอินเทอร์เนชันแนล ลิฟวิง ได้จัดอันดับ 25 ประเทศที่น่าใช้ชีวิตอยู่ที่หลังเกษียณ ประจำปี 2565 นี้ โดยประเทศไทย คว้าอันดับที่ 11 ในการจัดอันดับดังกล่าว ด้วยคะแนน 72.9 คะแนน และ เป็นอันดับหนึ่งหากนับเฉพาะในหมวดหมู่ประเทศในทวีปเอเชียเท่านั้น

โดยสาเหตุที่ประเทศอยู่อันดับที่ 11 ในฐานะประเทศเหมาะใช้ชีวิตหลังเกษียณนั้น เนื่องจาก ค่าครองชีพที่ถูก อากาศดี อาหารอร่อย ค่ารักษาพยาบาลไม่แพง และ ผู้คนเป็นมิตร โดยสถานที่ยอดนิยมได้แก่ กรุงเทพ หัวหิน และ เชียงใหม่ ขณะที่แชมป์ปีนี้ได้แก่ประเทศ ปานามา ตามมาด้วย คอสตาริกา และ เม็กซิโก ซึ่งสามประเทศนั้นล้วนแต่เป็นประเทศในแถบอเมริกาเหนือทั้งหมด ส่วนประเทศในทวีปเอเชียนอกจากประเทศไทยแล้วก็มี กัมพูชา (72.3) มาเลเซีย , เกาะบาหลีของอินโดนีเซีย และเวียดนาม ร่วมอยู่ด้วย

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป